วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

วิเคราะห์ความสัมพันธ์จากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น



เหตุการณ์ความขัดแย้งทางศาสนาที่เกิดขึ้นได้บั่นทอนความสัมพันธ์ของประชาชนในสังคมเป็นอย่างมากเพราะประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธและนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนน้อยซึ่งเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมีพระสงฆ์เป็นตัวปลุกระดม ยุยงให้เกิดความขัดแย้งจนกลายเป็นความรุนแรงที่บานปลายไม่อาจแก้ไขได้ในขณะนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ของชาวพุทธและมุสลิมโรฮิงยาในจังหวัดใกล้เคียงหรือจังหวัดอื่นๆเริ่มเกิดความระแวง และระวังตัวกันมากขึ้น และประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศที่นับถืออิสลามเป็นส่วนใหญ่อย่าง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่โหดร้ายของพระสงฆ์เหล่านี้ มองว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รุนแรงและไม่เท่าเทียมกัน





  





วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุ่การณ์ความขัดแย้ง

จากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางศาสนาที่ฝังใจในอดีตได้ยืดเยื้อจนกลายมาเป็นความรุนแรงที่ไม่สามารถแก้ไขได้ยิ่งปัจจุบันเพิ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นจากการ ยุยง การสร้างข่าวลือที่ไม่เป็นความจริง การแบ่งแยกทางศาสนาอย่างชัดเจน การกดขี่ข่มเหง จำกัดสิทธิทุกอย่างในสังคม ทำให้เกิดการเรียกร้องและปะทะกันอย่างดุเดือดเกิดการนองเลือดระหว่างชาวพุทธกับมุสลิมโรฮิงยาโดยเหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นที่รัฐยะไข่ในปี 2555 ที่ผ่านมาเป็นเหตุการณ์ความขัดแย้งที่รุนแรงถึงขั้นขีดสุดซึ่งพระสงฆ์เป็นแกนนำหลักในการก่อความรุนแรงครั้งนี้ส่งผลกระทบให้ประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายต้องอพยพไปอยู่ที่อื่นก่อนรวมถึงสร้างความหวาดระแวงให้กับรัฐอื่นๆหรือจังหวัดใกล้เคียงด้วย นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ เศรษฐกิจ และความมั่นคงของชาติในเรื่องของการพัฒนาประชาธิปไตยด้วย ประเทศใกล้เคียงที่ได้รับข่าวความรุนแรงก็ได้เกิดการทะเลาะวิวาทระหว่างชาวพม่าศาสนาพุทธและมุสลิม เช่น ในศูนย์ผู้อพยพในจังหวัดสุมาตราประเทศอินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ราย และบาดเจ็บอีก 15 ราย เป็นต้น จากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น รัฐบาลพม่าต้องเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวดเด็ดขาดหากปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไปอาจกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งทางศาสนาระดับชาติที่แก้ไม่ตกได้




               ความเป็นมาของความขัดแย้ง


พ.ศ. 2428       --- คนอินเดียอพยพเข้ามาเป็นแรงงานจำนวนมากส่วนหนึ่งเข้ามาเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ ภายหลังก็เข้าครอบครองพื้นที่ที่แต่เดิมเป็นของชาวพม่าที่ไม่สามารถไถ่ถอนได้ พม่าจึงไม่ค่อยชอบชาวอินเดียนับตั้งแต่นั้นมา
พ.ศ. 2491       --- รัฐบาลพม่าหรือประชากรสัญชาติพม่าดูถูกเหยียดหยามใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ตลอดจนจำกัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของชาวมุสลิมโรฮิงยาในรูปแบบต่างๆ
พ.ศ. 2521       --- รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าได้ปฏิบัติการอย่างโหดร้ายทารุณ ใช้อาวุธข่มขู่ขับไล่พวกมุสลิมโรฮิงยาออกจากที่อยู่อาศัย เผาทำลายบ้านเรือน ฆ่า ข่มขืนสตรี จนต้องอพยพไปอยู่ที่บังกลาเทศ
พ.ศ. 2535       --- กองทัพพม่าข้ามชายแดนเข้าไปก่อกวนมุสลิมโรฮิงยาในบังคลาเทศ และมุสลิมโรฮิงยากลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าได้ข้ามชายแดนจากบังกลาเทศเข้าไปปล้นในฝั่งพม่าด้วย
                   --- สหประชาชาติ ได้ส่งผู้แทนจากสหประชาชาติลงไปแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดสันติภาพโดยเจรจาระหว่างสองชาติได้เกิดผลในเดือนเมษายนในข้อตกลงที่จะส่งผู้อพยพกลับบ้าน 
พ.ศ. 2555      ---  .. มีรายงานข่าวว่าหญิงชาวพุทธถูกทารุณ ข่มขืนและฆาตกรรมโดยชายมุสลิม 3 คน สร้างความโกรธแค้นให้กับชาวพม่าเป็นจำนวนมาก
                        ---  มิ.. ชาวพม่าในเมืองตองอัพได้บุกขึ้นไปบนรถบัสที่มีชาวมุสลิมร่วมเดินทาง นำตัวชาวมุสลิมบนรถบัส 10 คนลงมาสังหาร โดยทั้งสิบคนไม่เกี่ยวข้องใดๆกับเหตุการณ์ข่มขืนที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ลุกลามใหญ่โต ชาวพุทธและมุสลิมต่างโกรธแค้นซึ่งกันและกัน มีการทำร้ายร่างกาย ทรัพย์สิน มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากเกิดการเดินขบวนประท้วงตามบริเวณต่างๆรวมทั้งที่ย่างกุ้งด้วย แม้กระทั่งพระสงฆ์ก็ออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้มีการขับไล่ชาวโรฮิงญาออกไปจากประเทศเพราะไม่ใช่ชาวพม่า
                        --- .. เกิดเหตุม็อบชาวพุทธจัดตั้งวางเพลิงบ้านเรือนและโจมตีชาวโรฮิงยา เหตุการณ์นั้นทำให้กลุ่มฮิวแมนไรต์วอตช์จากนิวยอร์กประณามว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
พ.ศ. 2556      --- มี.. เกิดเหตุปะทะระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิมจนกลายเป็นเหตุจลาจลครั้งใหม่ในเมืองเมคติลา ผู้ก่อเหตุจลาจลได้เผาบ้านเรือน โรงเรียน และมัสยิด หลายหลังเป็นเหตุให้ประชาชนหลายพันคนอพยพออกจากบ้านเรือนเพราะหวาดกลัวความไม่ปลอดภัย รัฐบาลจึงประกาศใช้เคอร์ฟิวและแจกจ่ายอาหารช่วยเหลือชาวบ้านที่อพยพ
                   --- .. องค์การสหประชาชาติได้จัดประชุมที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯโดยมีทูตจากออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อินโดนีเซีย นอร์เวย์ รัสเซีย สิงคโปร์ อังกฤษ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป (อียู) และไทย เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางยุติความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมโรฮิงยาในพม่าโดยเรียกร้องให้รัฐบาลพม่ารับรองสัญชาติชาวโรฮิงยากว่า  800,000 คน ในฐานะพลเมืองของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชนเช่นเดียวกับประชาชนเชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์อื่นๆ อีก 60 ล้านคนในพม่า


**Time line Technique** ของเหตุการณ์





ระบบการปกครองของประเทศพม่า 




รูปแบบการปกครอง เผด็จการทางทหาร ปกครองโดยรัฐบาลทหารภายใต้สภาสันติภาพ

และการพัฒนาแห่งรัฐ (State Peace and Development Council – SPDC)

โดยมีประธานSPDC เป็นประมุขประเทศ และมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล
                - ประธาน SPDC พลเอกอาวุโส ตาน ฉ่วย (Senior General Than Shwe)(เมษายน 2535)
                - นายกรัฐมนตรี พลเอก โซ วิน (General Soe Win) (19 ตุลาคม 2547)
                - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายญาณ วิน(U Nyan Win)(18 กันยายน 2547)
เขตการปกครอง แบ่งการปกครองเป็น 7 รัฐ(state) สำหรับเขตที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อย และ 7 ภาค (division) สำหรับเขตที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายพม่า

และเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554 ตาน ฉ่วยแถลงผ่านทีวี ยุบเอสพีดีซี หลังทหารบริหารประเทศมานานกว่า 20 ปีรายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศแจ้งว่า พลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย ผู้นำสูงสุดของรัฐบาลทหารพม่า ออกแถลงผ่านโทรทัศน์ว่า สภาเพื่อการพัฒนา และสันติภาพแห่งรัฐ SPDC จะยุติบทบาทลง หลังรัฐบาล และรัฐสภาชุดใหม่ สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง นับเป็นการสลายอำนาจของกองทัพลงจากระบบการปกครองประเทศ

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีหลังเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ปีที่แล้ว รัฐบาลทหารจัดการเลือกตั้งครั้งใหญ่ขึ้น เพื่อถ่ายโอนอำนาจสู่การปกครองระบอบพลเรือน ซึ่งพรรคพรรคสหภาพเอกภาพ และการพัฒนา (ยูเอสดีพี) ที่สนับสนุนกองทัพ คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย  ด้าน นายเต็ง เส่ง ผู้นำพรรคยูเอสดีพี ได้เข้าสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศพม่า

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทหารปกครองพม่ามาตั้งแต่ปี 2531 โดยกองทัพได้ส่งกำลังเข้ากวาดล้างกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 3,000 คน


เขตพื้นที่การปกครอง

 เขตการปกครอง ประเทศพม่าแบ่งเป็น 7 เขต (divisions) และ 7 รัฐ (states) ได้แก่

1.เขตอิรวดี (Ayeyarwady)                        2.เขตพะโค(Bago)            3.เขตมาเกว (Magway)
4.เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay)                        5.เขตสะกาย (Sagaing)     
6.เขตตะนาวศรี (Tanintharyi)               7.เขตย่างกุ้ง (Yangon)

 รัฐ

 1.รัฐรัฐชิน (Chin)     2.รัฐกะฉิ่น (Kachin)     3.รัฐกะเหรี่ยง(Kayin)                                              
 4.รัฐกะยา (Kayah)         5.รัฐมอญ (Mon)              6.รัฐยะไข่(Rakhine)                                            
 7.รัฐฉาน หรือรัฐไทใหญ่ (Shan)

             

บทบาทของ UN (องค์กาiสหประชาชาติ) ในการเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น




UN เข้ามามีบทบาทในการจัดตั้งสำนักงานช่วยเหลือให้ที่อยู่อาศัยจาการที่พม่าประกาศออกกฎหมายให้คนจีนและอินเดียที่อยู่ในประเทศพม่าเกินกว่า ๑๐ ปี ได้รับสัญชาติพม่า แต่ขับไล่ชาวโรฮิงยาในรัฐอารกัน(รัฐยะไข่ในปัจจุบัน) ออกนอกประเทศไป จนกระทั้งปัจจุบันได้มีเหตุการณ์ความขัดแย้งทางศาสนาเกิดขึ้นอีก ในปี 2555-2556 ซึงเป็นความขัดแย้งที่ยิ่งใหญ่รุกลามบานปลายระหว่างชาวพุทธและชาวโรฮิงยา ล่าสุด UN เรียกร้องให้พม่าหาทางยุติความรุนแรงโดยทันทีและทำทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อปกป้องพลเมืองและดำเนินการต่อสัตรูที่อยู่เบื้องหลัง ส่วนที่ปรึกษาพิเศษเกี่ยวกับพม่าประจำสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายสร้างความสงบ เร่งบรรเทาความตึงเครียดและสร้างสันติภาพ ส่วนองค์กรนิรโทษกรรมสากลเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าหาทางยุติความรุนแรงในเมคติลา มิฉะนั้น พม่าเสี่ยงที่จะเผชิญกับการจลาจลที่วนเวียนไม่รู้จักจบสิ้น เพราะความตึงเครียดระหว่างชาวพุทธและมุสลิมเริ่มกระจายไปในส่วนอื่นของประเทศ ส่วนทูตพิเศษประจำสหประชาชาติได้ลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์ด้วยตนเอง รวมทั้งได้พบปะพูดคุยกับทั้งชาวพุทธและมุสลิมผู้ประสบความรุนแรงในค่ายที่พักพิงชั่วคราว แห่ง เขาระบุว่า ชาวมุสลิมตกเป็นเป้าหมายการถูกกระทำอย่างเป็นระบบ มีการปล่อยข่าวลือเพื่อให้เกิดความวุ่นวายระหว่างชุมชนพุทธและมุสลิม คนที่ก่อเหตุเป็นคนนอกพื้นที่ที่ถูกจัดตั้งมา เขาเรียกร้องให้ผู้นำศาสนาพุทธและอิสลามพูดกับคนในชุมชนของตนให้ยุติความรุนแรงและเคารพกฎหมาย ฟื้นฟูความสงบสุข สถานทูตต่างประเทศในพม่า



สาเหตุการขัดแย้ง


ด้านข้อมูล  
                
มีการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริง โดยมีกลุ่มแกนนำหัวรุนแรง ที่เป็นพระสงฆ์ เรียก กลุ่มนี้ว่า 969 กลุ่มแกนนำเหล่านี้จะมีการปล่อยข่าวสารเรื่องราวที่เป็นด้านลบของชาวมุสลิมโรฮิงยาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นข้อมูลข่าวสารที่มากมายเกินความเป็นจริง และข้อมูลเหล่านี้ ทำให้ชาวพุทธที่มีความเกียจชังชาวโรฮิงยาอยู่แล้ว เพิ่มความเกียจชังมากขึ้นไปอีก ส่งผลทำให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่แล้วรุกลามมากจนไม่สามารถที่จะหาทางแก้ไขได้ ส่วนวิธีการที่พวก 969 เผยแพร่ข้อมูลก็จะมีหลายช่องทางส่วนมาก จะเป็น social network หนังสือนิตยาสารไทม์  

ด้านโครงสร้าง
                
รัฐบาลในพม่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับชาวโรฮิงยามากเท่าไหร่เมื่อเกิดความขัดแย้งดังกล่าวก็ไม่ได้มีมาตรการในการแก้ไขที่เด็ดขาด อาจเป็นเพราะว่ารัฐบาลเองก็นำถือพุทธเหมือนกัน จึงกลัวว่าถ้าออกมาตรการที่เด็ดขาดแล้วอาจมีความขัดแย้งภายในพุทธเสียเอง


ด้านความสัมพันธ์
                
ทั้งสองฝ่ายชาวพุทธกับชาวมุสลิมมีความเกียจชังกันสร้างความขัดแย้งกันมาตั้งแต่อดีต แต่ดูเหมือนว่าพุทธจะลุกล้ำและเป็นฝ้ายที่ดำเนินการสร้างความแตกแยกและระรานมุสลิมมากกว่า

ด้านค่านิยม

ชาวพุทธและชาวมุสลิมโรฮิงยาอาศัยอยู่ร่วมกันในรัฐยะไข่ ดินแดนพม่าโดยที่ชาวพุทธมีจำนวนมากกว่าชาวโรฮิงยา มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันคนส่วนใหญ่ในพม่ามีค่านิยมในการนับถือพุทธเพราะเชื่อว่า พระสงฆ์มีบทบาทสำคัญผู้คนเห็นว่าพระสงฆ์เป็นผู้ที่ประเสริฐเพราะได้รับหลักคำสอนจากพระพุทธเจ้าจึงทำให้มีความเชื่อและงมงายในศาสนามากจนเกินไปจนกลายเป็นความมัวเมายึดติดกับความเชื่อเหล่านั้นและนำมาซึ่งการต่อต้านศาสนาอื่นใดที่จะเข้ามาในดินแดนของตนเอง จนลืมนึกถึงสัจธรรมที่แท้จริงของมวลมนุษย์ เป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งที่ไม่รู้จักจบสิ้น



ระดับความรุนแรง


ระยะที่5  ช่วงสงครามหรือการปะทะกันอย่างเต็มที (Absolute War)



เป็นช่วงที่มีการปะทะกันอย่างรุนแรงโดยชาวพุทธและชาวมุสลิมทำการต่อสู้ใช้กำลังเพื่อการล้างแค้น ต้นเหตุมาจากที่ชาวพุทธไม่พอใจที่ชาวมุสลิมเรียกร้องในการใช้สิทธิต่างๆในช่วงที่พม่านั้นเปลี่ยนระบอบการปกครองจากเผด็จการมาเป็นระบอบประชาธิปไตย จนเหตุการณ์เชื่อมโยงมาถึงปัจจุบันสร้างความราวฉานเกลียดชังมากยิ่งขึ้น อีกทั้งฝ่ายของพุทธนั้นมีผู้ยุยงอยู่เบื่อหลังในการให้ข้อมูลข่าวสาร และคำสอนทางศาสนาไปในทางที่ผิดให้กับชาวพุทธจนเกิดการทำร้ายชาวมุสลิมมีการเผาทำลายบ้านเรือน ฆ่า ข่มขู่และขับไล่ออกจากประเทศ รวมทั้งข่าวลือต่างๆ ส่วนชาวมุสลิมซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยเกิดความไม่พอใจและทนไม่ได้กับการกระทำของชาวพุทธทำให้มีการตอบโต้ แต่อย่างไรแล้วก็ไม่สามารถที่จะสู้กับกำลังชาวพุทธซึ่งมีจำนวนที่มากกว่าและยังมีแกนนำเป็นพระสงฆ์ในการประท้วงเพื่อที่จะขับไล่ชาวมุสลิมออกจากประเทศ จนถึงปัจจุบันยังคงมีการปะทะกันระหว่างศาสนาในยะไข่และจังหวัดข้างเคียง





คำสอนของศาสนาพุทธ




หลักคำสอนคำสำคัญของพระพุทธศาสนาอันเป็นไปเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาต่างๆในชีวิตเป็นไปเพื่อความหลุดพ้น หรือคำสอนอันเป็นหัวใจพุทธศาสนา หลักธรรมประกอบด้วย
  หลักการ ๓ อุดมการณ์ ๔ วิธีการ ๖ ดังนี้

หลักการ ๓

๑. การไม่ทำบาปทั้งปวง ได้แก่การงดเว้น การลด ละเลิก ทำบาปทั้งปวง ซึ่งได้แก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ทางแห่งความชั่ว มีสิบประการ อันเป็นความชั่วทางกาย ทางวาจา และทางใจความชั่วทางกาย ได้แก่ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม
ความชั่วทางวาจา ได้แก่ การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ
ความชั่วทางใจ ได้แก่ การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม

๒. การทำกุศลให้ถึงพร้อม ได้แก่ การทำความดี ทุกอย่างซึ่งได้แก่ กุศลกรรมบถ ๑๐ เป็นแบบของการทำฝ่ายดีมี ๑๐ อย่าง อันเป็นความดีทางกาย ทางวาจาและทางใจการทำความดีทางกาย ได้แก่ การไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทำร้ายเบียดเบียน ผู้อื่นมีแต่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การไม่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการไม่ประพฤติผิดในกาม
การทำความดีทางวาจา ได้แก่ การไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ และไม่พูดเพ้อเจ้อพูดแต่คำจริง พูดคำอ่อนหวาน พูดคำให้เกิดความสามัคคีและพูดถูกกาลเทศะ
การทำความดีทางใจ ได้แก่ การไม่โลภอยากได้ของของผู้อื่นมีแต่คิดเสียสละการไม่ผูกอาฆาตพยาบาทมีแต่คิด เมตตาและปรารถนาดีและมีความเห็นความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามทำนองคลอง ธรรม เช่น เห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

๓. การทำจิตให้ผ่องใส ได้แก่ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ปราศจากนวรณ์ซึ่งเป็นเครื่องขัดขวางจิตไม่ให้เข้าถึงความสงบ มี ๕ ประการ ได้แก่
๑). ความพอใจในกาม (กามฉันทะ)
๒). ความอาฆาตพยาบาท (พยาบาท)
๓). ความหดหู่ท้อแท้ ง่วงเหงาหาวนอน (ถีนะมิทธะ)
๔). ความฟุ้งซ่าน รำคาญ (อุทธัจจะกุกกุจจะ) และ
๕). ความลังเลสงสัย (วิกิจฉา) เช่น สงสัยในการทำความดี ความชั่วว่ามีผลจริงหรือไม่

อุดมการณ์ ๔

๑. ความอดทน ได้แก่ ความอดกลั้น ไม่ทำบาปทั้งทางกายวาจา ใจ
๒. ความไม่เบียดเบียน ได้แก่ การงดเว้นจากการทำร้ายรบกวน หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
๓. ความสงบ  ได้แก่ ปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ
๔. นิพพาน  ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นได้จาการดำเนินชีวิต
      ตามมรรคมีองค์

วิธีการ ๖

๑. ไม่ว่าร้าย ได้แก่ ไม่กล่าวให้ร้ายหรือ กล่าวโจมตีใคร
๒. ไม่ทำร้าย  ได้แก่ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
๓. สำรวมในปาติโมกข์ ได้แก่ ความเคารพระเบียบวินัย กฎ กติกา กฎหมาย รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีอัน
      ดีของสังคม 
๔. รู้จักประมาณ  ได้แก่ รู้จักความพอดีในการบริโภคอาหาร หรือการใช้สอยสิ่งต่าง ๆ
๕. อยู่ในสถานที่ที่สงัด ได้แก่ อยู่ในสถานที่สงบมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
๖. ฝึกหัดจิตใจให้สงบ ได้แก่ ฝึกหัดชำระจิตให้สงบมีสุขภาพ คุณภาพและประสิทธิภาพที่ดี





แหล่งที่มา


อิสรภาพแห่งความคิดไทยโพสต์  ,วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
http://thaipost.net/news/220513/73892
ไทยรัฐออนไลน์   ทีมข่าวต่างประเทศ  25 มีนาคม 2556, 23:00 น.
http://m.thairath.co.th/content/oversea/334806
ไทยรัฐออนไลน์   ทีมข่าวต่างประเทศ  29 พฤษภาคม 2556, 21:50 น.
http://m.thairath.co.th/content/oversea/347919
Voice TV Inform Inspire Entertain  , 10 มิถุนายน 2555 เวลา 19:49 น.
http://news.voicetv.co.th/global/41433.html
The –Thainews , 28  มีนาคม  2556
http://www.the-thainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=236%3A2013-04-02-08-15-03&catid=2%3Ainter-news&Itemid=3
คมชัดลึกออนไลน์  การเมือง : คอลัมน์เด็ด , 1 เมษายน 2556
http://www.komchadluek.net/detail/20130401/155202/%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2..%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2.html#.UfezSY1w0rd
ประชาไท  แปลเปลี่ยนโลก , 2013-04-20 02:18
http://prachatai.com/journal/2013/04/46302


     ความคิดเห็นของแต่ละคนในกลุ่ม


ชมพู่  จักราวรรณ  ประสงค์สิ่งดี        
จากเหตุการณ์ความขัดแย้งจนเกิดความรุนแรงมีการใช้กำลังทำร้ายกัน ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากมายโดยที่รัฐบาลพม่าไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเหตุการณ์ยากเกินกว่าจะแก้ไข เนื่องจากต่างฝ่ายมีความแค้นต่อกันถูกสะสมมาเป็นเวลานาน ทำให้ต่างฝ่ายต่อสู้เพื่อล้างแค้นให้กับฝ่ายของตน รวมถึงข่าวลือต่างๆที่เป็นจุดเดือดของการใช้ความรุนแรงในแต่ละครั้ง ฝ่ายพุทธเองนั้นมีพระสงฆ์เป็นผู้ยุยงโดยเผยแพร่แนวความคิดที่ผิดๆผ่านทางโซเชียลมีเดีย มีชาวพุทธเชื่อในคำสอนและแนวความคิดที่พระสงฆ์รูปนี้เผยแพร่ ซึ่งการใช้ความรุนแรงของชาวพุทธนั้นผิดต่อคำสอนของพุทธเจ้าที่สอนให้คิดดีปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม ด้านของชาวมุสลิมเองก็ไม่สามารถที่จะตอบโต้ได้มากนักเพราะเป็นชนกลุ่มน้อยส่วนใหญ่จะเป็นการกระทำของชาวพุทธเสียมากกว่า การแก้ไขปัญหาจึงเป็นไปได้ยากจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายๆฝ่าย ในด้านของผู้นำทางศาสนาจะต้องทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นรับฟังเหตุผล ลดการมีอคติ ความเชื่อที่ผิดๆให้น้อยลงเพื่อหาทางออกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะต้องสร้างความเชื่อแนวคิดที่ถูกต้องให้กับชาวพุทธในพม่าเสียใหม่ ตัวของรัฐบาลพม่าจะต้องเป็นกลางมีความยุติธรรมในการตัดสินปัญหาหรือเหตุการณ์เพื่อป้องกันการทำร้ายกันในภายหลัง ให้ความช่วยเหลือทั้งสองฝ่ายไม่ควรแยกปฏิบัติให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ปัญหาความขัดแย้งทางศาสนาเป็นเรื่องยากที่จะหาทางออกปัจจุบันเองก็ยังเกิดเหตุทำร้ายกันอย่างต่อเนื่องไม่สามารถยุติลงได้ เป็นเพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานสร้างความเจ็บปวดให้ทั้งสองฝ่าย และต่างฝ่ายไม่ยอมอ่อนข้อให้กันอาจมีสาเหตุที่ว่าพม่ามีการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยประชาชนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน.


โอ๊ต  ศิริลักษณ์  ปาสาจะ 




ต้อง  ศุภวัฒน์  เสาเงิน  





จอย  พรนภา  ภูนาคเกี้ยว 


เฟิร์น  เพียงสุรีย์  ภักดีพรหมมา  





+++รวมภาพถ่าย+++





 


         




                          
               


               

                         





ผู้จัดทำ

   กลุ่ม ซี่เด๋อออออ...



 1.นางสาวศิริลักษณ์  ปาสาจะ 54020274

        Sirilak  Pasaja

              OAT

                            

                
     2.นางสาวจักราวรรณ ประสงค์สิ่งดี 54020429

        Jakrawan  Prasongsingdee

              CHOMPOO


               





3.นายศุภวัฒน์   เสาเงิน   54020639

    Supawat  Saongoen

          TONG

               4.นางสาวพรนภา  ภูนาคเกี้ยว 54021027

      Pornnapa  Poonakgeaw

             JOY


               






     5.นางสาวเพียงสุรีย์ ภักดีพรหมมา 

         54021029

                Piangsuree  Pakdeepromma

               FERN

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น